วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อนุกรมเลขคณิต

    บทนิยาม อนุกรมเลขคณิต
    อนุกรมที่ได้จากลำดับเลขคณิต เรียกว่า อนุกรมเลขคณิต และผลต่างร่วมของลำดับเลขคณิต เป็นผลต่างร่วมของอนุกรมเลขคณิตด้วย

    เมื่อ a1, a1 + d, a1 + 2d, …, a1 + (n – 1)d เป็นลำดับเลขคณิต

    จะได้ a1 + (a1 + d) + (a1 + 2d) + + (a1 + (n – 1)d) เป็นอนุกรมเลขคณิต

    ซึ่งมี a1 เป็นพจน์แรกของอนุกรม และ d เป็นผลต่างร่วมของอนุกรมเลขคณิต

    ากบทนิยาม จะได้ว่า ถ้า a1, a2, a3, …, an เป็น ลำดับเลขคณิต ที่มี n พจน์

    จะเรียกการเขียนแสดงผลบวกของพจน์ทุกพจน์ของลำดับในรูป

    a1 + a2 + a3 + + an ว่า อนุกรมเลขคณิต

    และผลต่างร่วม ( d ) ของลำดับเลขคณิต เป็นผลต่างร่วมของอนุกรมเลขคณิตด้วย

      การหาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิต

      ให้ Sn เป็นผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิต

      ที่มี a1 เป็นพจน์แรก และ d เป็นผลต่างร่วม จะได้

      Sn = a1 + (a1 + d) + … + [a1+(n – 2)d] + [a1+(n –1)d] -----(1)

      หรือ Sn= [a1 + (n –1)d] + [a1 + (n – 2)d] + … + (a1 + d) + a1 -----(2)

      สมการ (1)+(2) จะได้

      2Sn = [2a1 + (n –1)d] + [2a1 + (n –1)d] + … + [2a1 + (n –1)d] (n พจน์ )

      2Sn = n[2a1 + (n –1)d]

      เมื่อ Sn แทนผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิต

      a1 แทนพจน์ที่ 1, d แทนผลต่างร่วม, n แทนจำนวนพจน์ และ an แทนพจน์ที่ n

อนุกรมเลขาคณิต

    ทนิยาม อนุกรมเรขาคณิต
    อนุกรมที่ได้จากลำดับเรขาคณิต เรียกว่า อนุกรมเรขาคณิต และ อัตราส่วนร่วมของลำดับเรขาคณิต
    จะเป็นอัตราส่วนร่วมของ อนุกรมเรขาคณิตด้วย

    กำหนด a1, a1r, a1r2, …, a1r n-1 เป็นลำดับเรขาคณิต

จะได้ a1 + a1r + a1r2 + … + a1r n-1 เป็นอนุกรมเรขาคณิต

ซึ่งมี a1 เป็นพจน์แรก และ r เป็นอัตราส่วนร่วมของอนุกรมเรขาคณิต

    จากบทนิยาม จะได้ว่า ถ้า a1, a2, a3, …, an เป็น ลำดับเรขาคณิต ที่มี n พจน์

    จะเรียกการเขียนแสดงผลบวกของพจน์ทุกพจน์ของลำดับในรูป

      a1 + a2 + a3 + + an ว่า อนุกรมเรขาคณิต

    และอัตราส่วนร่วมของลำดับเรขาคณิต จะเป็นอัตราส่วนร่วมของอนุกรมเรขาคณิตด้วย

      การหาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเรขาคณิต

      ให้ Sn แทนผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเรขาคณิต

    ซึ่งมี a1 เป็นพจน์แรก และ r เป็นอัตราส่วนร่วม

    Sn = a1 + a1r + a1r2 + + a1r n-2+ a1r n-1 --- (1)

    สมการ (1) คูณ r จะได้

    rSn = a1r + a1r2+ a1r3 + … + a1r n-2+ a1r n-1 + a1r n --- (2)

    สมการ (1) – (2) จะได้

    Sn rSn = a1-a1rn

    (1 – r)Sn = a1(1-rn)

    สรุป ผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเรขาคณิต

    เมื่อ Sn แทนผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเรขาคณิต

    a1 แทนพจน์ที่ 1

    an แทนพจน์ที่ n

    r แทนอัตราส่วนร่วม พจน์ที่ n+1 หารด้วยพจน์ที่ n

อนุกรม

บทนิยาม อนุกรม

    ถ้า a1, a2, a3, …, an เป็น ลำดับจำกัด ที่มี n พจน์ จะเรียกการเขียนแสดงผลบวกของพจน์ทุกพจน์ของลำดับในรูป
    a1 + a2 + a3 + + an ว่า อนุกรมจำกัด
    ทำนองเดียวกัน ถ้า a1, a2, a3, …, an, เป็น ลำดับอนันต์ จะ เรียกการเขียนแสดงผลบวกในรูป
    a1 + a2 + a3 + + an + … ว่า อนุกรมอนันต์

1. ความหมายของอนุกรมและสัญลักษณ์แทนการบวก

กำหนด a1, a2, a3, … , an เป็นลำดับจำกัด

จะได้ a1 + a2 + a3 + + an เป็นอนุกรมจำกัด

และ เมื่อ a1, a2, a3, …, an, เป็นลำดับอนันต์

จะได้ a1 + a2 + a3 + + an + เป็นอนุกรมอนันต์

จากบทนิยาม จะได้ว่า อนุกรมจำกัดมาจากลำดับจำกัด และอนุกรมอนันต์มาจากลำดับอนันต์

จากอนุกรม a1 + a2 + a3 + + an +

เรียก a1 ว่าพจน์ที่ 1 ของอนุกรม

a2 ว่าพจน์ที่ 2 ของอนุกรม

a3 ว่าพจน์ที่ 3 ของอนุกรม

an ว่าพจน์ที่ n ของอนุกรม

2. ตัวอย่างของอนุกรม

    1. 1 + 3 + 5 + 7 + + 99 เป็น อนุกรมจำกัด

    ที่ได้จากลำดับจำกัด 1, 3, 5, 7, …, 99

    2. 1 + 2 + 4 + + 2n-1 + เป็น อนุกรมอนันต์

    ที่ได้จากลำดับอนันต์ 1, 2, 4, …, 2n-1 ,

สัญลักษณ์แทนการบวก

เพื่อให้การเขียนอนุกรมสะดวกขึ้นจึงนิยมใช้อักษรกรีก (ซิกมา)

เป็น สัญลักษณ์แทนการบวก เขียนแทน a1 + a2 + a3 + + an ด้วย img1.gif

นั่นคือ img1.gif = a1 + a2 + a3 + + an

img1.gif = a1 + a2 + a3 + + a 10

เขียนแทน a1 + a2 + a3 + + an + ... ด้วย img2.gif

นั่นคือ img2.gif = a1 + a2 + a3 + + an + ...

สมบัติบางประการเกี่ยวกับ

1. img3.gif = C + C + C + (n ตัว)

= Cn เมื่อ C R

2. img4.gif = img5.gif

3. img6.gif

4. img7.gif


ลำดับเรขาคณิต

    บทนิยาม ลำดับเรขาคณิต คือ ลำดับที่มีอัตราส่วนของพจน์ที่ n+1 ต่อพจน์ที่ n เป็นค่าคงที่
    ทุกค่าของจำนวนนับ
    n และเรียกค่าคงที่นี้ว่า อัตราส่วนร่วม

ถ้า a1, a2, a3, …, an, an+1 เป็นลำดับเรขาคณิต แล้ว จะได้


เท่ากับค่าคงที่ เรียกค่าคงที่นี้ว่า อัตราส่วนร่วม
(Common ratio) เขียนแทนด้วย r

    ตัวอย่าง ลำดับเรขาคณิต


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ลำดับเลขคณิต

บทนิยาม ฟังก์ชันที่มีโดเมนเป็นเซตของจำนวนเต็มบวกที่เรียงจากน้อยไปมากโดยเริ่มตั้งแต่ 1 เรียกว่า ลำดับ

ถ้าฟังก์ชันเป็นลำดับที่มีโดเมนเป็น { 1, 2, 3, …, n } เรียกว่า ลำดับจำกัด

และถ้าฟังก์ชันเป็นลำดับที่มีโดเมนเป็น { 1, 2, 3, … } เรียกว่า ลำดับอนันต์

    1 ความหมายของลำดับ

ในการเขียนลำดับ จะเขียนเฉพาะสมาชิกของเรนจ์เรียงกันไป

กล่าวคือ ถ้า a เป็น ลำดับจำกัด จะเขียนแทนด้วย a1, a2, a3, …, an

และ ถ้า a เป็น ลำดับอนันต์ จะเขียนแทนด้วย a1, a2, a3, …, an,

เรียก a1 ว่า พจน์ที่ 1 ของลำดับ

เรียก a2 ว่า พจน์ที่ 2 ของลำดับ

เรียก a3 ว่า พจน์ที่ 3 ของลำดับ

และเรียก an ว่า พจน์ที่ n ของลำดับ หรือพจน์ทั่วไปของลำดับ

    2. ตัวอย่างของลำดับ

1) 4, 7, 10, 13 เป็น ลำดับจำกัด ที่มี

a1 = 4
a2 = 7
a3 = 10
a4 = 13
และ an = 3n + 1

2) – 2, 1, 6, 13, เป็น ลำดับอนันต์ ที่มี

a1 = – 2
a2 = 1
a3 = 6
a4 = 13
และ an = n2 – 3

การเขียนลำดับนอกจากจะเขียนโดยการแจงพจน์แล้ว อาจจะเขียนเฉพาะพจน์ที่ n หรือพจน์ทั่วไปพร้อมทั้งระบุสมาชิกในโดเมน

ตัวอย่าง

1) ลำดับ 4, 7, 10, 13 อาจเขียนแทนด้วย

an = 3n + 1 เมื่อ n { 1, 2, 3, 4 }

2) ลำดับ – 2 , 1, 6, 13, อาจเขียนแทนด้วย

an = n2 – 3 เมื่อ n เป็นจำนวนเต็มบวก

หมายเหตุ ในกรณีที่กำหนดลำดับโดยพจน์ที่ n หรือพจน์ทั่วไป ถ้าไม่ได้ระบุสมาชิกในโดเมน

      ให้ถือว่าลำดับนั้นเป็น ลำดับอนันต์

    3. ตัวอย่าง ลำดับต่อไปนี้เป็นลำดับจำกัด หรือ ลำดับอนันต์

    ลำดับจำกัด เป็นลำดับที่มีโดเมนเป็นเซตของจำนวนเต็มบวก n พจน์แรก

    ลำดับอนันต์ เป็นลำดับที่มีโดเมนเป็นเซตของจำนวนเต็มบวก

      1) 6, 12, 18, 24, 30 เป็นลำดับจำกัด

      2) 2, 4, 8, 16, …, , เป็นลำดับอนันต์

      3) an = 5n – 2 เมื่อ n { 1, 2, 3, …, 20 } เป็นลำดับจำกัด

      4) เป็นลำดับอนันต์

      5) an = n2 + 3 เป็นลำดับอนันต์